วันอังคารที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2555

การเกิดรุ้งกินน้ำ


การเกิดรุ้งกินน้ำ

รุ้งกินน้ำ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นหลังจากฝนตก โดยเกิดขึ้นจากแสงแดดส่องผ่านละอองน้ำในอากาศ ทำให้แสงสีต่าง ๆ เกิดการหักเหขึ้น จึงเห็นเป็นแถบสีต่าง ๆ ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า รุ้งปฐมภูมิจะประกอบด้วยสีม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด และแดง โดยมีสีม่วงอยู่ชั้นในสุดและสีแดงอยู่ชั้นนอกสุด ส่วนรุ้งทุติยภูมิจะมีสีเช่นเดียวกันแต่เรียงลำดับในทิศทางตรงกันข้ามการมองเห็น


การมองเห็น
เราสามารถมองเห็นรุ้งกินน้ำได้เมื่อมีละอองน้ำในอากาศและมีแสงอาทิตย์ส่องมาจากด้านหลังของผู้สังเกตการณ์ในมุมที่สูงจากพื้นไม่มากนัก โดยส่วนใหญ่รุ้งกินน้ำจะปรากฏให้เห็นชัดเจนเมื่อท้องฟ้าส่วนมากค่อนข้างมืดครึ้มด้วยเมฆฝน ส่วนผู้สังเกตการณ์อยู่ในที่พื้นที่สว่างซึ่งมีแสงส่องจากดวงอาทิตย์ จะทำให้มองเห็นรุ้งกินน้ำพาดผ่านฉากหลังสีเข้มปรากฏการณ์รุ้งกินน้ำยังอาจพบเห็นได้ในบริเวณใกล้กับน้ำตกและน้ำพุ หรืออาจสร้างขึ้นเองได้โดยการพ่นละอองน้ำไปในอากาศกลางแสงแดด รุ้งกินน้ำยังอาจเกิดจากแสงอื่นนอกจากแสงอาทิตย์ ในคืนที่แสงจันทร์มีความสว่างมากๆ อาจทำให้เกิดรุ้งกินน้ำก็ได้ เรียกว่า moonbow แต่ภาพรุ้งที่เกิดขึ้นจะค่อนข้างจางมองเห็นได้ไม่ชัด และมักมองเห็นเป็นสีขาวมากกว่าจะเห็นเป็นเจ็ดสีการถ่ายภาพวงโค้งสมบูรณ์ของรุ้งกินน้ำทำได้ยาก เพราะจำเป็นต้องกระทำในมุมมองประมาณ 84° ถ้าใช้กล้องถ่ายภาพแบบปกติ (35 mm) จะต้องใช้เลนส์ขนาดความยาว 19 mm หรือเลนส์ไวด์แองเกิลจึงจะใช้ได้ ถ้าผู้สังเกตการณ์อยู่บนเครื่องบิน อาจมีโอกาสมองเห็นรุ้งกินน้ำแบบเต็มวงได้ โดยมีเงาของเครื่องบินอยู่ที่ศูนย์กลางวง
กระบวนการเกิดรุ้งกินน้ำในธรรมชาติ เป็นอย่างนี้นะครับ
แสงเดินทางมาถึงหยดน้ำแสงเกิดการหักเห เนื่องจากมีการเคลื่อนที่ผ่านตัวกลางที่มีความหนาแน่นต่างกัน (จากอากาศสู่น้ำ) โดยแสงสีน้ำเงินจะหักเหมากกว่าแสงสีแดงแสงเกิดการสะท้อนภายในหยดน้ำ เนื่องจากผิวภายในของหยดน้ำ มีความโค้งและผิวคล้ายกระจกแสงเกิดการหักเห จากภายในหยดน้ำผ่านสู่อากาศอีกครั้งเมื่อดูโดยรวม มุมสะท้อนของแสงสีแดง คือ 42 องศา ในขณะที่มุมสะท้อนของ แสงสีน้ำเงิน คือ 40 องศา
รุ้งมี 7 สี : ม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด(ส้ม) แดง : รุ้งประกอบด้วยสีมากมายครับ ไล่เรียงตั้งแต่สีม่วงจนกระทั่งถึงสีแดง รุ้งเกิดจากแสงอาทิตย์ จึงมีสีครบเต็มสเปคตรัม (ดูรายละเอียดเรื่องพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าในElectromagnetic Spectrum) แต่ที่บอกว่ามีเพียง 7 สี เพราะเราพูดถึงเฉพาะสีหลักๆ เท่านั้น ให้ท่องง่ายจำง่ายรุ้งกินน้ำเกิดวงใหญ่หรือเล็กขึ้นกับอะไร ? : โค้งรุ้งกินน้ำจะมีขนาดใหญ่ เมื่อดวงอาทิตย์อยู่ใกล้ขอบฟ้า เช่น ตอนเช้า หรือ ตอนเย็นรุ้งกินน้ำทำไมมีสีออกแดงเวลาเย็น ? : ในตอนเช้าและเย็น แสงจากดวงอาทิตย์ต้องเดินทางผ่านชั้นบรรยากาศเป็นระยะทางที่ยาวขึ้น แสงสีฟ้าและเขียวจะเกิดการกระเจิง (scattering) คงเหลือแต่แสงสีแดง และเหลือง เป็นส่วนมาก ทำให้รุ้งมีสีออกโทนแดงรุ้งกินน้ำเกิดเต็มวงกลมได้หรือไม่ ? : โดยปกติ รุ้งกินน้ำไม่สามารถเกิดเต็มวงได้ เนื่องจากมีพื้นดินมาบังเอาไว้ อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจากข้อจำกัดในการเกิดรุ้งกินน้ำ เราอาจพูดได้ว่า เราสามารถเห็นรุ้งกินน้ำเต็มวงได้ หากอยู่บนเครื่องบิน ที่บินอยู่เหนือกลุ่มของละอองน้ำ หรือ ยืนอยู่บนยอดเขา มองลงไปในหุบเขาที่มีละอองน้ำ เป็นต้น
รุ้งกินน้ำเกิดในตำแหน่งใดบนท้องฟ้า ? : มุมระหว่างเส้นสายตากับรุ้งกินน้ำ (วงปฐมภูมิ) ที่ทำกับเส้นจากรุ้งกับดวงอาทิตย์ มีค่าเท่ากับ 42 องศา ทำให้รุ้งกินน้ำที่เกิดขึ้น เป็นวงโค้ง ไม่ใช่เส้นตรง หรือเส้นแบบอื่นๆเราเห็นรุ้งกินน้ำตัวเดียวกันเสมอ : เนื่องจากเรามองดูรุ้งกินน้ำในตำแหน่งที่ต่างกัน (ต่อให้ยืนซ้อนกัน ก็ยังต้องนับว่าตำแหน่งที่ดูต่างกัน) เราจะเห็นรุ้งกินน้ำต่างตัวเสมอ เนื่องจากมุมในการมองต่างกัน ดังนั้นน้องๆ ควรจะภูมิใจว่า ธรรมชาติสร้างรุ้งกินน้ำให้เราเห็นเฉพาะบุคคลจริงๆ
รุ้งกินน้ำเกิดจากการหักเหของแสง ? : รุ้งกินน้ำตัวที่ 1 หรือ รุ้งปฐมภูมิ เป็นรุ้งกินน้ำโค้งที่ชัดที่สุดที่เราเห็นกันเป็นประจำ โค้งสีแดงจะอยู่บนสุด และโค้งสีม่วงจะอยู่ล่างสุด รุ้งปฐมภูมิเกิดจากการที่แสงหักเห 2 ครั้ง และสะท้อน 1 ครั้ง (หักเห-สะท้อน-หักเห) รุ้งกินน้ำตัวที่ 2 หรือ รุ้งทุติยภูมิ เป็นรุ้งกินน้ำที่ชัดน้อยกว่า และจะเกิดอยู่เหนือรุ้งกินน้ำตัวที่ 1 โดยที่ลำดับสีของสายรุ้งจะสลับกับลำดับสีของรุ้งปฐมภูมิ คือโค้งสีแดงจะอยู่ล่างสุด และโค้งสีม่วงจะอยู่บนสุด รุ้งทุติยภูมิเกิดจากการที่แสงหักเห 2 ครั้ง และสะท้อน 2 ครั้ง (หักเห-สะท้อน-สะท้อน-หักเห)รุ้งกินน้ำไม่ได้เกิดขึ้นทุกครั้งหลังฝนตก (มีละอองฝน) และแดดออก (มีแสงอาทิตย์) ? : ในข้อนี้ อาจเป็นที่ถกเถียงกันได้ แต่ถ้าเราอาศัยความรู้เกี่ยวกับรุ้งกินน้ำที่เราทราบดีแล้ว เราน่าจะสามารถกล่าวได้ว่า "รุ้งกินน้ำเกิดทุกครั้งที่มีสภาพเหมาะสม (มีละอองฝน + แสงแดดส่อง) แต่เราไม่เห็นรุ้งกินน้ำ เนื่องจากเราไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่จะเห็นมันต่างหาก"รุ้งกินน้ำดูชัดเท่ากันทั้งตัว : รุ้งกินน้ำที่อยู่ใกล้พื้นดิน จะดูชัดเจนกว่ารุ้งกินน้ำตัวเดียวกันที่อยู่สูงขึ้นไป เนื่องจากรูปร่างของหยดน้ำใกล้พื้นดินมีรูปทรงที่กลมกว่า ทำให้การหักเหและสะท้อน เกิดขึ้นดีกว่ารุ้งกินน้ำมี 2 ตัว คือ รุ้งปฐมภูมิ กับ รุ้งทุติยภูมิ : ในธรรมชาติ เราจะเห็นรุ้งกินน้ำได้อย่างมาก 2 ตัวเท่านั้น แต่ทางทฤษฎีแล้ว เนื่องจากแสงสามารถสะท้อนมากกว่า 2 ครั้ง ในหยดน้ำ จึงสามารถทำให้เกิดรุ้งตัวที่ 3...4...5... ไปได้เรื่อยๆ ทุกครั้งที่แสงจำนวนหนึ่งหักเหออกมาจากหยดน้ำ แล้วทำให้เกิดรุ้งกินน้ำ แสงที่เหลือจะสะท้อนต่อไป และหักเหออกมา ทำให้เกิดรุ้งกินน้ำตัวต่อไป ที่มีความเข้มของแสงน้อยลง (มองเห็นได้ยากขึ้น) รุ้งตัวอื่นๆ นี้ มีรายงานว่าสามารถสร้างขึ้นได้ในห้องทดลองถ้าเราดูรุ้งกินน้ำ หรือใช้กล้องถ่ายภาพรุ้งกินน้ำผ่าน polarizing filter จะเห็นรุ้งกินน้ำชัดขึ้นหรือไม่ ? : คำตอบคือใช่ และ ไม่ใช่ ! สำหรับรุ้งกินน้ำตัวสั้นๆ การใช้ filter ดังกล่าว จะสามารถทำให้รุ้งกินน้ำดูชัดเจนขึ้นมาก แต่ถ้าเป็นรุ้งกินน้ำตัวยาวๆ การใช้ filter ดังกล่าว จะทำให้บางส่วนของรุ้งกินน้ำดูชัดเจนขึ้น แต่บางส่วนจะเลือนหายไปเกือบหมด หรือหมดเลยทีเดียว ที่เป็นเช่นนี้ เพราะรุ้งกินน้ำแต่ละส่วน มีระนาบของการเป็น polarization ต่างกันครับ

วันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ประกบยิงลูกชายส.ส.อุทัยธานี ดับ


ประกบยิงลูกชายส.ส.อุทัยธานี ดับ
ประกบยิงลูกชายส.ส.อุทัยธานี ดับ
เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 20 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานจาก สภ.หมูสี จ.นครราชสีมา ว่ามีเหตุประกบยิงรถของ ส.ส. ชาดา ไทยเศรษฐ์  ส.ส.อุทัยธานี เขต 2 พรรคชาติไทยพัฒนา พบลูกชายนายฟารุต ไทยเศรษฐ์ อายุ 27 ปี ถูกยิงบาดเจ็บสาหัส  บริเวณก่อนถึงโรงแรมชาโต เดอ เขาใหญ่ ก่อนเสียชีวิตที่ ร.พ.ปากช่องนานา
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ คาดว่า “ครอบครัวไทยเศรษฐ์” กลับจากการท่องเที่ยวบริเวณเขาใหญ่ ระหว่างเดินทางกลับที่พัก มีคนร้ายขับรถปิคอัพประกบ แล้วกระหน่ำยิง 6 – 7 นัด เข้าไปที่รถ โดยนายชาดาและลูกชายนั่งอยู่ในรถคนละคัน แต่คนร้ายได้เลือกยิงเข้าไปในรถที่ลูกชายนั่ง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนขนาด 9มม. 6-7 นัด
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในระหว่างการสอบสวน ถึงแรงจูงใจของคนร้ายในการประกบยิงครั้งนี้ว่ามีเหตุหมายปองชีวิตส.ส. ชาดา หรือลูกชายโดยตรง


วันอาทิตย์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2555

นครศรีธรรมราช-ไฟไหม้ป่าพรุ ยังวิกฤต


นครศรีธรรมราช-ไฟไหม้ป่าพรุ ยังวิกฤต


วันเสาร์ ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2555
หลายหน่วยงานระดมกำลังดับไฟป่าพรุ ในจังหวัดนครศรีธรรมราชและเขตรอยต่อจังหวัดพัทลุง ทั้งทางอากาศและภาคพื้นดิน ซึ่งยังไฟกระจายลุกไหม้อยู่หลายจุด
เจ้าหน้าที่กว่า 100 นายระดมกำลังเข้าดับไฟในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยและพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติคลองยวน อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ซึ่งยังมีไฟครุกรุ่นตลอดเวลา แต่การปฏิบัติงานยังเป็นไปด้วยความยากลำบาก /ขณะที่กำลังอีกส่วนหนึ่ง คอยเฝ้าระวังพื้นที่แรมซ่าไซต์หรือพื้นที่ชุ่มน้ำโลกแห่งแรกของประเทศไทย เพื่อป้องกันไฟที่ลุกไหม้ลามเข้ามาในพื้นที่

ส่วนสถานการณ์ไฟไหม้ป่าพรุควนเคร็ง ในจังหวัดนครศรีธรรมราชยังมีไฟโหมไหม้ตามแรงลม ขณะที่หลายหน่วยงานระดมกำลังเข้าดับไฟที่ยังลุกไหม้อยู่หลายจุด ทั้งการขึ้นบินทำฝนหลวง การใช้เฮลิคอปเตอร์ บรรทุกน้ำหรือแบมบี้แทงค์จากคลองแพรกเมือง-ชะอวด ขึ้นโปรยน้ำเหนือแนวไฟที่กำลังลุกไหม้ รวมถึงการเข้าพื้นที่ดับไฟในภาคพื้นดิน ซึ่งวันนี้กำลังทหารจากกองทัพภาคที่ 4 กว่า 250 นาย พร้อมรถบรรทุกน้ำอีก 11 คัน ลำเลียงเข้าไปร่วมปฏิบัติการดับไฟป่ากับเจ้าหน้าที่อุทยานฯและหน่วยเสือไฟของกรมป่าไม้ ขณะที่กำลังทหารอีก 1 ชุดกระจายไปดับไฟที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบ่อล้อ ในอำเภอเชียรใหญ่ ที่กำลังถูกไฟไหม้ด้วย 

บ่อน้ำพุร้อนหลากสี

            
            Morning Glory Pool บ่อน้ำพุร้อนหลากสี ที่ แอ่งน้ำพุ Upper Geyser Basin อุทยานแห่งชาติ Yellowstone ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มาของชื่อก็มาจากสีสันคล้ายดอก Morning Glory ตามที่ปรากฏแก่สายตานั่นแหละ ตามหลักวิทยาศาสตร์วิเคราะห์ว่า สีสันต่างๆ ของ บ่อน้ำพุร้อนหลากสี เกิดจากแบคทีเรียซึ่งอาศัยอยู่ในน้ำ
บางครั้ง Morning Glory Pool มีการเดือดปะทุ จึงไปกระตุ้นต่อมซุกซนของนักท่องเที่ยวมือบอนบางคน อุตริโยนเหรียญหรือวัตถุบางอย่างลงไป เพราะอยากดูปฏิกิริยา แต่หารู้ไม่ว่ามันทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและมีผลต่อสภาพของ บ่อน้ำพุร้อน Morning Glory Pool ถือเป็นการทำลายธรรมชาติ ..เฮ้อ บางครั้งความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์ ก็ไม่ใช่ข้อดีเสมอไป หรือจะให้ดี พี่โดดลงไปเลยมั้ย? จะได้ชัดแจ้ง!


yellowstone
บ่อน้ำพุร้อน Morning Glory Pool
yellowstone
yellowstone
yellowstone
yellowstone
บ่อน้ำพุร้อน Morning Glory Pool
yellowstone
yellowstone
yellowstone
บ่อน้ำพุร้อน Morning Glory Pool
yellowstone
yellowstone
yellowstone
yellowstone

วันเสาร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2555

สถานที่มหัศจรรย์ที่สุดในโลก


สถานที่มหัศจรรย์ที่สุดในโลก

สถานที่… “มหัศจรรย์”… ที่ไม่น่าเชื่อว่า… มีอยู่จริงบนโลกใบนี้
บนโลกของเรายังมีสถานที่ที่น่าพิศวงอีกมากมายที่น่าท่องเที่ยว น่าค้นหา และนี้คือ หลายๆ สถานที่ ที่มหัศจรรย์ที่ไม่น่าเชื่อว่ามีอยู่จริงบนโลกใบนี้
1. Eisriesenwelt Ice Caves (Austria)

ถ้ำน้ำแข็งไอส์รีเซนเวลต์ (Eisriesenwelt Ice Caves) ในภาษาเยอรมันหมายถึง “โลกแห่งน้ำแข็งยักษ์” เป็นถ้ำน้ำแข็ง หินปูน ธรรมชาติขนาดใหญ่ของประเทศออสเตรีย (เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์) ตั้งอยู่ใกล้เคียงกับเมืองซาล์สเบิร์ก เป็นถ้ำน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดโลกเท่าที่มนุษย์ค้นพบในปัจจุบัน
โดยถ้ำแห่งนี้ค้นพบครั้งแรกในปี 1879 ที่สมัยนั้นคนในท้องถิ่น รู้จักมันในฐานะทางเข้าสู่นรกและไม่กล้าที่จะเข้าไปข้างใน ลักษณะข้างในถ้ำเป็นเหมือนภูเขาที่อยู่ในถ้ำและจะมีน้ำแข็งเกาะ หินงอก เต็มไปหมด เสมือนกับว่าคุณอยู่ในโลกต่างมิติยังไงอย่างงั้น จนไม่เชื่อว่านี้คือฝีมือของธรรมชาติ ถ้ำแห่งนี้มีความลึกถึง 42 กิโลเมตร (แต่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมแค่กิโลเมตรแรก)
โดยถ้ำนี้เปิดให้นักท่องเที่ยวชมตั้งแต่ 1 พฤษภาคมถึงเดือนตุลาคมของทุกปี โดยเปิด 9.00 น.-16.30 น. ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป แต่กระนั้นก็มีนักท่องเที่ยวกว่า 200,000 คนต่อปีมายังสถานที่แห่งนี้
2. The Richat Structure (Mauritania)
ริแชทแห่งมอริเตเนีย (เป็นประเทศในแอฟริกาตะวันตกเฉียงเหนือ) เป็นภูมิประเทศประหลาดในทะเลทรายซาทาร่าของมอริทาเนีย ได้รับความสนใจจากทั่วโลก เนื่องจากมีลักษณะดินที่แปลกตางดงาม ที่เรียกโครงสร้างนี้ว่า “Richat Structure” เป็นวงกลมขนาดใหญ่รัศมีของมันกว้างถึง 50 กิโลเมตร สามารถมองเห็นทั้งหมดได้จากทางอวกาศ (รวมไปถึงภาพถ่ายดาวเทียม) ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดโครงสร้างแบบนี้ยังคงลึกลับ บ้างก็ว่าเกิดจากผลกระทบของอุกาบาตพุ่งชนจนเกิดเป็นคลื่นที่มีรัศมีกว้าง หรืออาจเกิดจากการยกตัวและการกัดกร่อนของหิน
3. The Stone Forest (China) 
อุทยานป่าหิน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในมณฑลยูนาน บริเวณทางตอนใต้ห่างจากเมืองคุนหมิง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน และถูกบันทึกว่าเป็นป่าหินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือพื้นที่ 350 ตารางกิโลเมตร (พื้นที่เฉพาะส่วนที่เยี่ยมชมราว 12 ตารางกิโลเมตร)
ซึ่งพื้นที่แห่งนี้ป่าหินนี้เต็มไปด้วยหินปูนและต้นไม้ ที่กลายเป็นหินซึ่งลักษณะสวยงามแปลกตามากมายอายุราว 270 ล้านปี มีถ้ำ มีน้ำตก มีจุดท่องเที่ยวกว่า 200 จุด แต่เดิมบริเวณแห่งนี้อยู่ใต้ผิวน้ำ
และเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของผิวโลกหินเหล่านี้จึงถูกดันให้โผล่ขึ้นเหนือ ผิวน้ำ กลายเป็นภูมิทัศน์ที่งดงามโดดเด่น ซึ่งป่าหินคุนหมิง นับเป็นพิพิธภัณฑ์ของป่าหินทั่วโลก ซึ่งมีคุณค่ามาก 
4. Blood Pond Hot Spring (Japan)
น้ำพุร้อนสีเลือด เป็นหนึ่งในบ่อน้ำพุร้อนชื่อดังของเมืองเบปปุ ในจังหวัดโออิตะ บนเกาะคิวชู ที่เอาไว้ชมความงามมากกว่าจะใช้อาบ
โดยสถานที่แห่งนั้นเรียกอีกชื่อว่า “นรกบ่อเลือด” สาเหตุที่น้ำพุมีสีเลือดเนื่องจากมีธาตุเหล็กอยู่ในปริมาณมากนั่นเอง
5. Vale da Lua (Brazil)
หุบเขาโลกพระจันทร์ เป็นที่ราบสูงโบราณที่มีอายุเก่าแก่กว่า 1.8 พันล้านปี อยู่ห่างจากเมือง Alto Paraíso de Goiás ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ของประเทศบราซิลไปประมาณ 38 กิโลเมตร
และเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ Chapada dos Veadeiros โดยพื้นที่แห่งนี้เต็มไปด้วยหินรูปร่างประหลาดแปลกตามากมาย ทำให้ดูเหมือนผิวพื้นดวงจันทร์อย่างใดอย่างงั้น
ซึ่งสาเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เนื่องมาจากการกัดเซาะของแม่น้ำ San Miguel แทรกอยู่ภายใน ซึ่งองค์การยูเนสโกประกาศให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 2001 และเป็นหนึ่งในสถานที่ที่นักท่องเที่ยวอยากมาชมมากที่สุดในชีวิต 
6. Salar de Uyuni (Bolivia)
เป็นทะเลเกลือที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีพื้นที่ถึง 10,582 กิโลเมตร ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของโบลิเวีย ใกล้ยอดของเทือกเขาแอนดีส และมีความสูง 3,656 เมตร (11,995 ฟุต) หรือระดับน้ำทะเลเฉลี่ย เป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยคราบเกลือที่หลงเหลือมานานตั้งแต่ยุคก่อนประวัติ ศาสตร์
ทำให้พื้นที่แห่งนี้เต็มไปด้วย หินเกลือและยิปซัม และแร่ลิเธียม (มีมากกว่า 70% ของปริมาณแร่ลิเธียมของทั้งโลกที่ยังไม่ได้สกัด) มีการประมาณว่ามันบรรจุไว้ด้วยเกลือกว่า 10 ล้านล้านตัน มีเกลือมากจนกระทั้งกลายเป็นชั้นดินที่สามารถทำให้คนหรือรถ เดินทางลงได้อย่างสบาย นอกจากทัศนียภาพที่แปลกตาจนเป็นแหล่งท่องเที่ยวแล้ว มันยังใช้ประโยชน์มากมาย หนึ่งในนั้นคือมันเหมาะมากในการถูกนำไปใช้ประโยชน์ ในการตรวจสอบ และปรับแก้การวัดค่าความสูงของดาวเทียม
เนื่องจากพื้นที่แห่งนี้กว้างใหญ่ พื้นผิวราบเรียบเป็นพิเศษ อีกทั้งท้องฟ้าที่ค่อนข้างเปิด ความชื้นต่ำ นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่สำคัญ ทางเศรษฐกิจของโบลิเวียเพราะแร่ลิเธียม (ใช้ทำแบตเตอรี่ไฟฟ้า) เหมือนแร่ และยังเป็นแหล่งของพืชและสัตว์แปลกๆ มากมาย (ภาพใหญ่ข้างบนปรากฏการสะท้อนแสง) 
7. Kliluk, the Spotted Lake (Canada) 
“สปอท เลค” เป็นทะเลสาบเกลือที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ของโอซอยออส ข้างทางหลวงหมายเลข 3 บริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา
เป็นทะเลสาบที่มีแร่ธาตุชนิดต่างๆ เข้มข้นอยู่จำนวนมาก และบางชนิดก็มีปริมาณมากที่สุดในโลกด้วย ไม่ว่าจะเป็น ซัลเฟต แมกนีเซียม แคลเซียม และโซเดียม ซัลเฟต (มากที่สุดในโลก) รวมไปถึงเงินและไทเทเนียม ในฤดูร้อนแร่ต่างๆ จะเกิดการระเหย และตกผลึกเป็นเกลือส่งผลทำให้แม่นำเกิดจุด คือด้านนอกเป็นส่วนของแร่ธาตุนานาชนิด (ที่สามารถลงไปเดินสำรวจได้) ส่วนในวงกลมเป็นน้ำที่มีสีที่แล้วแต่แร่ธาตุชนิดนั้น สมัยก่อนแร่ธาตุจากที่แห่งนี้เคยถูกนำไปใช้ประโยชน์ในการทำกระสุน ในสมัยสงครามโลก และปัจจุบันสถานที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ของเอกชน ทำให้เปิดให้คนนอกเข้าชมความมหัศจรรย์ของทะเลสาบแห่งนี้จำนวนจำกัด
โดยวิธีที่ดีที่สุดคือนักท่องเที่ยวจึงทำได้แค่หยุดรถแล้วมองจากราวรั้วกั้นริมถนนเท่านั้น
8. Socotra Island (Indian Ocean)

 
ไม่น่าเชื่อว่านี้คือเกาะบนโลกมนุษย์ เพราะว่ามันช่างเหมือนบนดาวเคราะห์ที่มีแต่สิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดจริงๆ เกาะโซโคตร้า เป็นหมู่เกาะเล็กๆ ภายใต้เยเมน
ที่ปลายติ่งแหลมของทวีปแอฟริกา อยู่ในมหาสมุทรอินเดีย ห่างจากประเทศโซมาเลีย 250 กิโลเมตร
เป็นเกาะใหญ่ที่สุดในจำนวน 4 เกาะสังกัดหมู่เกาะ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกไปเมื่อ กรกฏาคม 2008 สภาพภูมิอากาศที่ร้อนอบอ้าว และแห้งแล้ง ลักษณะภูมิประเทศ ที่เป็นภูเขาอันแปลกตาแปลกใจ พื้นที่ที่เต็มไปด้วยสีฟ้าและเขียวจากธรรมชาติ แต่สิ่งที่แปลกที่สุดคือมันเป็นสถานที่รวมแห่งพืชพรรณแปลกประหลาดหลายชนิด ต้นไม้รูปทรงแปลก ๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่รอดได้อายุกว่า 20 ล้านปี การแยกโดดเดี่ยวทำให้เกาะโซโคตร้า มีกลุ่มพืชและสัตว์ “หนึ่งไม่มีสอง”
ในโลก 37% ในจำนวนพืช 825 ชนิด สัตว์เลื้อยคลาน 90% และสัตว์น้ำมีเปลือกชนิดต่างๆ 95% ที่ไม่สามารถพบเห็น ม่ว่าสถานที่อื่นใดโลก เช่น ต้น “กุหลาบแห่งทะเลทราย (Desert Rose)” ต้น dragon’s blood (เลือดมังกร) ที่ว่ากันว่ามีสรรพคุณรักษาได้สารพัดโรค จึงไม่มีอะไรน่าแปลกใจที่เกาะแห่งนี้จะถูกขนามนามว่า
“กาลาปาโกสของมหาสมุทรอินเดีย”
9. Mcmurdo Dry Valleys (Antartica)
แมคเมอร์โด ไดร์ วัลเลย์ หรือหุบเขาแห้งแล้ง เป็นทะเลทรายแห้งแล้งขนาดพื้นที่กว่า 4800 กิโลเมตร ที่ตั้งอยู่ในเอนตาร์กติกา แถบขั้วโลกใต้ โดยพื้นที่แห่งนี้เป็นทะเลทรายที่แห้งแล้งมากๆ ไม่มีความชื้น เป็นสถานที่แห่งเดียวที่ไม่หิมะ ไม่มีน้ำแข็งปกคลุม ชั้นหินปกคลุมไปด้วยก้อนกรวด ที่เต็มไปด้วยออกไซด์ของเหล็ก
ซึ่งก็คือ “สนิม” นั่นเอง ทำให้เกิดน้ำตกที่มีสีเหมือนเลือดขึ้น
จนไม่มีสิ่งมีชีวิตใดทั้งสิ้นอยู่ในบริเวณนี้ แต่กระนั้นทัศนียภาพในสถานที่แห่งนี้ ช่างน่าสนใจเหลือเกิน เสมือนว่าอยู่ดาวอังคาร (ทำให้นักวิทยาศาสตร์ต่างพยายาม
ศึกษาบริเวณนี้ หากมีสิ่งมีชีวิตอยู่ แสดงว่าดาวอังคารน่าจะมีอยู่ด้วย โดยสิ่งที่เจอก็มีเพียงแบคทีเรียบางชนิด) นอกจากนี้ยังมีสถานที่น่าสนใจอีกมากมาย
เช่น Lake Vida และ Onyx River ซึ่งเป็นแม่น้ำสยยาวของแอนตาร์กติกา
10. The Door To Hell
ประตูสู่นรก(Door to Hell) หลุมที่เต็มไปด้วยลาวาที่ไม่เคยดับ มาตลอด 35 ปี และไม่สามารถคาดเดาได้ว่ามันจะดับลงเมื่อไหร่ อีกทั้งไม่มีใครกล้าลงไปสำรวจ สถานที่นี้ตั้งอยู่ที่เมืองหนึ่งของ Darvaz ในประเทศอุซเบกิสถาน
ใครอยากเห็นมากกว่านั้นไป Google Earth ที่ 40°15′8″N 58°26′23″E
11. Mount Roraima

 
รัฐโรไรมา เป็นรัฐเหนือสุดและเป็นรัฐที่มีประชากรน้อยที่สุดในประเทศบราซิล ตั้งอยู่ในเขตลุ่มแม่น้ำอเมซอน อยู่ติดกับรัฐอามาโซนัสและรัฐปารา และยังติดกับประเทศเวเนซุเอลาและกายอานา โรไรนาเป็นสถานที่สวยงามโดดเด่น โดยเฉพาะจุดเด่นคือภูเขาเโรไรม่า ภูเขาที่เหมือนก้อนหินมหึมาที่สูงจนถึงก้อนเมฆ สูงกว่า 400 เมตร สูงชันทั้ง 4 ด้าน และติดกับสามชายแดนคือเวเนซูเอลา
ขอบคุณข้อมูลจาก

วันพฤหัสบดีที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2555

คนเก่งจากม.นเรศวรคว้าอันดับหนึ่งสอบตร.ประทวน

คนเก่งจากม.นเรศวรคว้าอันดับหนึ่งสอบตร.ประทวน





ผู้ที่ทำคะแนนได้สูงสุดในการสอบตร.ชั้นประทวน คือ นายพัชรพล ใจซื่อ บัณฑิตคณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษาญี่ปุ่น จากมหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ 101 จาก120 คะแนนเต็ม ไปรู้จักคนเก่งคนนี้

เป็นคำยืนยันที่มั่นใจในอาชีพผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ของว่าที่ สิบตำรวจตรี ที่ผ่านการสอบข้อเขียนในการสอบแข่งขันบุคคลภายนอกเพื่อบรรจุแต่งตั้งเป็น ตำรวจชั้นประทวนสายอำนวยการและสนับสนุน หรือ อก. ซึ่งเขาได้คะแนนสูงสุด จากผู้สมัครสอบ 138,435 โดยข้อสอบ 120 ข้อ เขาทำผิดเพียง 19 ข้อ ได้คะแนนคิดเป็นร้อยละ 84.17


แม้อาชีพตำรวจ จะถูกประชาชนในสังคมส่วนใหญ่มองด้วยทัศนคติที่ไม่ดี บวกกับค่าตอบแทนต่ำ เมื่อเทียบกับอาชีพอื่นในสายงานกระบวนการยุติธรรม แต่ พัชรพล บัณฑิตคณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษาญี่ปุ่น จากมหาวิทยาลัยนเรศวร กลับมีทัศนคติที่ดีต่อาชีพนี้ ซึ่งเป็นอาชีพที่รับภาระหนักกว่าทุกอาชีพ เนื่องจากต้องเป็นตำรวจตลอด 24 ชั่วโมง และภูมิใจที่ก้าวได้เข้าสู่เส้นทางสายอาชีพนี้


เมื่อ พัชรพล สอบผ่านการสัมภาษณ์ตามขั้นตอนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว เขาจะได้รับการบรรจุแต่งตั้งเป็นตำรวจ ยศ. สิบตำรวจตรี ในวันที่ 16 พฤศจิกายนนี้ ในอัตราเงินเดือนรวมค่าครองชีพ เพียง 8,610 บาทต่อเดือนเท่านั้น ขณะที่วุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีของเขาหากไปทำงานอาชีพอื่นเขาจะมีรายได้ ขั้นต่ำตามนโยบายของรัฐบาลถึง 15,000 บาท แม้รายได้จะน้อยเมื่อเทียบกับอาชีพอื่น แต่เขายังมั่นใจว่าสามารถบริหารชีวิตภายใต้เงินเดือนไม่ถึง 10,000 บาท ให้อยู่อย่างมีความสุข และจะสามารถปฏิบัติหน้าที่ในอาชีพตำรวจได้เต็มความสามารถ


ว่า ที่สอบตำรวจตรี ผู้ที่สอบผ่านข้อเขียนได้คะแนนสูงสุดคนนี้ ยังให้กำลังใจคนที่พลาดหวังด้วยการมุ่งมั่นเตรียมตัวสอบครั้งแต่ไปที่สำนัก งานตำรวจแห่งชาติเปิดสอบครั้งต่อไป ซึ่งเขายอมรับว่า โชคดีที่ได้เข้าสอบถึง 2 ครั้ง เพราะผลการสอบแข่งขันครั้งแรกเป็นโมฆะเนื่องจากมีการทุจริต ซึ่งเขาได้นำแนวทางข้อสอบจากครั้งแรกมาทบทวนและค้นคว้าข้อมูลความรู้เพิ่ม เติม และใช้เวลาเตรียมตัวก่อนสอบถึง 2 เดือนเต็ม ด้วยการอ่านหนังสือสอบวันละอย่างน้อยวันละ 6 ชั่วโมง

http://campus.sanook.com/1009911/%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A1.%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B6%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%95%E0%B8%A3.%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%A7%E0%B8%99/

วันพุธที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ภาพถ่ายทางอากาศตอนน้ำท่วม



ภาพทางอากาศ..ไม่อยากจะเชื่อ..นี่หรือ..ประเทศไทย

              เห็นสภาพน้ำท่วม ภาคกลาง อยุธยา ไม่ห่างจากกรุงเทพฯมากนัก  กลายเป็นสภาพทะเลสาบขนาดใหญ่ สุดลูกหูลูกตา จนสุดขอบฟ้า..หาแผ่นดินไม่เจอ  มีก็กลายเป็นเกาะเล็กๆ เป็นกลุ่มๆ แบบนี้ไปแล้ว  ชาวบ้านเบื้องล่างจะอยู่กันได้อย่างไรหนอ.. ที่อยู่ ที่กิน..ที่ขับถ่าย...ไม่อยากจะคิดว่าสภาพพี่น้อง ที่ต้องทนทุกข์ทรมานของคนไทยยามนี้..เป็นอย่างไร  แสนสาหัสจริงๆ  ช่วยเหลือกันยามยาก เถิดพี่น้องไทย...ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันแล้ว..ตอนนี้ ประสบทุกข์ยาก ไม่ต่างกันเลย  แม้รัฐบาลเพิ่งตื่น..ตั้งศูนย์ช่วยเหลือ ที่สนามบินดอนเมือง...โปรดช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนเถอะ..อย่างประชุมกันนานเลย...ชาวบ้านไม่ได้กินข้าวกินน้ำมาหลายวันแล้ว  



  ขอบคุณอย่างสูง ภาพถ่ายทางอากาศ จากฝูงบินครอบครัวข่าว 3  โดยจ่าฝูง คุณโตโต้ และคุณกฤช  ขอบคุณมากๆครับ



      รถยนต์เหล่านี้...จะรอดไหมเนี่ย...ต้องอพยพเป็นการด่วนแล้ว..โรงงานผลิตรถยนต์



      ถนนสายเอเชีย..อัมพาต...การจราจร  วันนี้...ปิดไปเรียบร้อยแล้ว



      ทางหลวง...ต้องกลายเป็นลานจอดเฮลิคอปเตอร์  ไปแล้ว...จะไปไหนดี..ปทุมธานี  หรือ บางปะหัน







   ส่งกำลังใจไปช่วยครับ คุณโตโต้ คุณกฤช...และทีมครอบครัวข่าว 3 ...ดูแลตัวเองด้วยนะครับ



       จอดมันตรงนี้แหละ..ลูกพี่....ไหนๆ...รถก็ผ่านกันไม่ได้แล้ว



      โอ้ย...ไม่อยากจะเชื่อว่า..ที่นี่..ประเทศไทย



      ทางหลวงสายเอเชีย..ขึ้นเหนือไม่ได้..โปรดเลี่ยงไปใช้เส้น..บางบัวทอง...สุพรรณบุรี แทนครับ



    ช่วงเย็นวันนี้..น้ำจากเจ้าพระยา..ล้นทะลักออกมาท่วม..แถวๆสนามบินน้ำ ใกล้ๆกระทรวงพาณิชย์ เมืองนนทบุรี แล้ว

       ขอบคุณทีมงาน คุณโตโต้ และฝูงบินครอบครัวข่าว 3 ที่ แบ่งปันภาพเหล่านี้มาให้ชมกันครับ
http://www.oknation.net/blog/nard/2011/10/07/entry-1